โทรศัพท์ 1358

“อธิบดีณัฏฐิญา“ ช้อป-ชม-เชียร์ SMEs ภาคเหนือในงาน ‘อุตสาหกรรมแฟร์ : มาเหนือ’ ขนของดีมาจำหน่ายภายในงานเพียบ !!!
“อธิบดีณัฏฐิญา“ ช้อป-ชม-เชียร์ SMEs ภาคเหนือในงาน ‘อุตสาหกรรมแฟร์ : มาเหนือ’ ขนของดีมาจำหน่ายภายในงานเพียบ !!!
จ.เชียงใหม่ 6 ธันวาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกิจกรรมการจัดแสดงสินค้าโรงงานและ SMEs ของคนไทย ใช้ของดี (อุตสาหกรรมแฟร์ : มาเหนือ) โดยมี นายสุรพล ปลื้มใจ นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวจินดา ธนาดำรงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 นางเกษสุดา ดอนเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นายสงกรานต์ มูลวิจิตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ นายพงษ์เกษม โพธิ์แก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน นางสาวธารกลม ถาวรพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 3 เชียงใหม่ เข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรมดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (ดีพร้อม เซ็นเตอร์ 1) สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้มีโอกาสนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน โดยมีสินค้าจากผู้ประกอบการโรงงาน SMEs และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมากมาย อาทิ อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของที่ระลึก การจำหน่ายอาหารแบบ Food Truck นอกจากนี้ มีการให้คำแนะนำสินเชื่อของกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กองทุนพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐ และสถาบันการเงินต่าง ๆ บริการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ กิจกรรมอบรมสัมมนาจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมในหัวข้อที่หลากหลายและน่าสนใจ เช่น ความรู้พื้นฐานต่าง ๆ สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ความรู้เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย ความรู้เรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ความรู้เกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานให้ปลอดภัยและถูกกฎหมาย ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการตลาดออนไลน์ เป็นต้น ในการนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้มอบนโยบายการดำเนินงานของดีพร้อม ที่มุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เปิดมุมมองในการประกอบอาชีพเสริม ต่อยอดธุรกิจได้ ทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโต นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการต่อยอดความสามารถของผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในเชิงพื้นที่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยยังคงเน้นอัตลักษณ์ความเป็นไทย เสริมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
08 ธ.ค. 2568
"รองอธิบดีพลาวุธ" ร่วมประชุม คกก. บริหาร สสว. เคาะแผน "แฟรนไชส์คนละครึ่งพลัส" กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
"รองอธิบดีพลาวุธ" ร่วมประชุม คกก. บริหาร สสว. เคาะแผน "แฟรนไชส์คนละครึ่งพลัส" กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2568 - นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (คกก.บริหารฯ) ครั้งที่ 14/2568 พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 2503 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล การประชุมครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาวาระสำคัญในการบริหารกองทุนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการกำหนดแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเร่งด่วน โดยคณะกรรมการบริหารฯ ได้พิจารณาอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดสรรเงินกองทุน ภายใต้โครงการสนับสนุนเอสเอ็มอี และ อนุมัติร่างระเบียบการให้กู้ยืมเงิน จากกองทุนส่งเสริมฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและรองรับการปรับเปลี่ยนธุรกิจ (Transformation) ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในกลุ่มที่ต้องการการพัฒนา พร้อมกันนี้ ยังได้พิจารณาแผนงานเชิงรุกต่าง ๆ อาทิ การดำเนินงานโครงการแฟรนไชส์คนละครึ่งพลัส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงโครงการ Thai SMEs New Opportunity Gateway เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสทางการค้าในตลาดต่างประเทศให้แก่เอสเอ็มอีไทย ภายหลังจากการพิจารณาและหารือร่วมกัน ที่ประชุมได้มีมติ เห็นชอบ ให้ดำเนินการตามที่ สสว. เสนอ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างยั่งยืน
08 ธ.ค. 2568
“จ่าเอก ยศสิงห์” นำทีม “ดีพร้อม” ลงพื้นที่แปดริ้ว เสิร์ฟคอร์ส ผลักดัน ปั้นอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและยั่งยืน
“จ่าเอก ยศสิงห์” นำทีม “ดีพร้อม” ลงพื้นที่แปดริ้ว เสิร์ฟคอร์ส ผลักดัน ปั้นอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและยั่งยืน
จ.ฉะเชิงเทรา 4 ธันวาคม 2568 - จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการดีพร้อม ผลักดัน ปั้นอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก” พร้อมด้วย นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพีรวัส สมวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายประกาศพงศ์ กลิ่นเนียม คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายประสิทธิ์ อินทโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรในพื้นที่ และประชาชนเข้าร่วม ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดดอนทราย ตำบลดอนทราย อำเภอบ้านโพธิ์ “โครงการดีพร้อม ผลักดัน ปั้นอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก” เป็นการฝึกอบรมระยะสั้น มุ่งเน้นการเพิ่มทักษะ ประสิทธิภาพการผลิต เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้ชุมชน สอดรับกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีมาตรการในการช่วยเหลือหรือกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ได้ผลระยะยาว รวมถึงนโยบาย 4 มิติ ของกระทรวงอุตสาหกรรมในมิติที่ 4 ที่มุ่งเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) จัดฝึกอบรมด้วยการเพิ่มทักษะ (Upskill) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) และสร้างโอกาสให้คนไทยมีรายได้ เกิดการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยใช้กลยุทธ์ “ให้ทักษะใหม่” เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และฝึกปฏิบัติจริง กิจกรรมในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนตำบลดอนทราย เข้าร่วมฝึกอบรมเรียนรู้ทักษะอาชีพใหม่ผ่านหลักสูตร “น้ำพริกกากหมู ยำผลไม้น้ำปลาหวาน ถั่วทอดสมุนไพร และซอสหม่าล่า” เปิดมุมมองในการประกอบอาชีพเสริมด้วยการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่าด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมในท้องถิ่นมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร โดยมีการนำผู้ประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจมาร่วมโชว์เคสเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ พร้อมอำนวยความสะดวกการให้บริการปรึกษาแนะนำและวิเคราะห์ปัญหาการประกอบธุรกิจเบื้องต้นผ่านศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (Business Service Center: BSC) และศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industrial Information Center: ITC) อีกด้วย ทั้งนี้ ดีพร้อม ยังมุ่งมั่นผลักดันชุมชนผ่านการ “ให้โอกาส” พร้อม “สนับสนุนแหล่งเงินทุน” เสริมสภาพคล่องผ่านสินเชื่อดีพร้อมเปย์ (DIPROM Pay) เพื่อให้วิสาหกิจไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างมั่นคงและยั่งยืน
08 ธ.ค. 2568
“ดีพร้อม” ส่งเสริมการสร้างสังคมเท่าเทียม หนุนจ้างงานคนพิการเกินกว่ากฎหมายกำหนด
“ดีพร้อม” ส่งเสริมการสร้างสังคมเท่าเทียม หนุนจ้างงานคนพิการเกินกว่ากฎหมายกำหนด
จังหวัดนนทบุรี 3 ธันวาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นผู้แทนเข้ารับรางวัลหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริม การจ้างงานคนพิการ ในงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 โดยนางสาวสนธยา บุณยภูษิต อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี รางวัลหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เพื่อยกย่องหน่วยงานที่สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี สร้างความตระหนักและส่งเสริมความเข้าใจ ในคนพิการให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ร่วมกันสร้างสังคมที่เป็นธรรม เสมอภาค และเท่าเทียม โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสมาคมสภาคนพิการ ทุกประเภทแห่งประเทศไทย (Disabilities Thailand) องค์กรคนพิการแต่ละประเภท จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นภายใต้ธีมที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ คือ “การส่งเสริมสังคมที่ครอบคลุมและเอื้อต่อคนพิการ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน” (Fostering disability inclusive societies for advancing social progress) เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวันโอกาสวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 ในการนี้ “ดีพร้อม” ได้รับรางวัลหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ (ประเภทจ้างงานเกินกว่ากฎหมายกำหนด) โดยในปี 2568 มีอัตราการจ้างงานคนพิการรวมทั้งสิ้น 9 คน สะท้อนให้เห็นว่า “ดีพร้อม” เป็นหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนพิการ ซึ่งหน่วยงานได้ดำเนินโครงการสนับสนุนการจ้างงานคนพิการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนพิการได้มีบทบาททางสังคม สร้างเส้นทางอาชีพที่มั่นคงให้กับคนพิการได้มีโอกาสทำงานอย่างเท่าเทียมและสมศักดิ์ศรี มีความหลากหลายในตำแหน่งที่เหมาะสมกับศักยภาพทั้งงานด้านวิชาการและด้านเทคนิค ทั้งนี้ จากประสบการณ์การจ้างงานของ “ดีพร้อม” ที่ผ่านมาพบว่า คนพิการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในที่ทำงานและมีประสิทธิภาพการทำงานที่ทัดเทียมหรือบางครั้งอาจสูงกว่าคนปกติทั่วไป
08 ธ.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา”  เดินหน้ากำหนดมาตรการเร่งด่วนเยียวยา ฟื้นฟู ช่วยเหลือเอสเอ็มอีในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมส่งตรงถึงมือเจ้าหน้าที่ดีพร้อมและประชาชนชาวหาดใหญ่ หวังช่วยฟื้นฟูหาดใหญ่กลับคืนสู่สภาพแข็งแรงโดยไว
“อธิบดีณัฏฐิญา”  เดินหน้ากำหนดมาตรการเร่งด่วนเยียวยา ฟื้นฟู ช่วยเหลือเอสเอ็มอีในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมส่งตรงถึงมือเจ้าหน้าที่ดีพร้อมและประชาชนชาวหาดใหญ่ หวังช่วยฟื้นฟูหาดใหญ่กลับคืนสู่สภาพแข็งแรงโดยไว
กรุงเทพฯ 2 ธันวาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาและฟื้นฟูผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมี นายดุสิต อนันตรักษ์ และนายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 (ดีพร้อม เซ็นเตอร์ 11) ได้รายงานข้อมูลความเสียหายจากการลงพื้นที่สำรวจตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพื่อจัดส่งถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค –บริโภคที่จะเป็น แจกจ่ายให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการรวบรวมสิ่งของ เงินบริจาค และจัดทำถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ร้อยละ 95 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ดีพร้อม เซ็นเตอร์ 11 ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้เช่นกัน และจากการสำรวจยังพบว่า มีความต้องการช่างซ่อมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการจมน้ำ จำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มีเพียงช่างซ่อมรถจักรยานยนต์เท่านั้น สำหรับการดำเนินการศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ของดีพร้อม เซ็นเตอร์ 11 นั้น ขณะนี้เริ่มมีประชาชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายได้อพยพมาขอพักอาศัยชั่วคราวแล้ว โดยคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากศูนย์พักพิงบางแห่งกำลังจะเริ่มปิดตัวลง ทั้งนี้ อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญคือ การขาดแคลนน้ำประปา ซึ่งเบื้องต้นได้รับความอนุเคราะห์จากหน่วยงานส่วนท้องถิ่นส่งรถน้ำเข้ามาให้บริการที่ศูนย์พักพิงวันละ 7,000 ลิตร “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 11 ทุกคน พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ช่วยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและยืนหยัดอย่างเข้มแข็งได้โดยเร็ว ในการนี้ จึงได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภายใต้สินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย หรือดีพร้อมเปย์ (DIPROM Pay) พร้อมทั้งวางแผนการจัดฝึกอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ เร่งฟื้นฟูศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ ตลอดจนการช่วยซ่อมแซมเครื่องจักรที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้อีกครั้งโดยไว
04 ธ.ค. 2568
“ธนกร” นำผู้บริหาร ก.อุตฯ ร่วมประชุมชี้แจงนโยบายแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2570 เผย นายกฯ เน้นย้ำยึดวินัยการเงินอย่างเคร่งครัด เป็นรายจ่ายงบลงทุนเป็นหลัก วอนรัฐ-เอกชน จัดกิจกรรมในจังหวัดประสบภัยพิบัติช่วงปลายปี
“ธนกร” นำผู้บริหาร ก.อุตฯ ร่วมประชุมชี้แจงนโยบายแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2570 เผย นายกฯ เน้นย้ำยึดวินัยการเงินอย่างเคร่งครัด เป็นรายจ่ายงบลงทุนเป็นหลัก วอนรัฐ-เอกชน จัดกิจกรรมในจังหวัดประสบภัยพิบัติช่วงปลายปี
กรุงเทพฯ - 1 ธันวาคม 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ทั้งนี้ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมด้วย นายธนกร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 กรอบวงเงิน 3,788,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 7,400 ล้านบาท หรือ 0.2 % โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แม้ว่าการจัดทำงบประมาณจะยังคงอยู่ในรูปแบบขาดดุล แต่รัฐบาลมีเจตนาแน่วแน่ที่จะลดการขาดดุลอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว และควบคุมหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม โดยยึดหลักวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับภัย 4 ด้าน ได้แก่ ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติด้วยว่า สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบรุนแรงและต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการปรับตัวและเยียวยา รัฐบาลจึงกำหนดนโยบายสำคัญ 5 ด้าน สำหรับงบประมาณปี 2570 ได้แก่ 1. ด้านเศรษฐกิจ เน้นการฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเร่งรัดมาตรการ Quick Big Win เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดผลลัพธ์ที่รวดเร็วและกระจายตัว พร้อมทั้งส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต 2. ด้านการต่างประเทศและความมั่นคง มุ่งมั่นในการรักษาอธิปไตยของชาติ และการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ขณะเดียวกันก็ดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อยกระดับบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD ภายในปี 2573 3. ด้านสังคม จัดการอย่างเด็ดขาดกับปัญหาสังคมที่เป็นภัยคุกคาม เช่น สแกมเมอร์ ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และการทุจริตคอร์รัปชัน โดยยึดหลักนิติธรรมและความโปร่งใส 4. ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติให้ครอบคลุมและเป็นระบบ พร้อมเร่งเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการผลักดันประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 และ 5. ด้านการบริหารงานภาครัฐ ปฏิรูประบบราชการไปสู่ รัฐบาลดิจิทัลเพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชน นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังขอความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ให้พิจารณาจัดประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น อำเภอหาดใหญ่ และขอให้เน้นหลักการสำคัญในการทำงาน 3 ประการ ได้แก่ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม นอกจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานจัดทำคำของบประมาณที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ความโปร่งใส และความคุ้มค่า โดยจำกัดการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายประจำที่ไม่จำเป็น และในการของบประมาณของหน่วยงานไม่ควรเพิ่มเกินร้อยละ 20 จากปีก่อน ควรเป็นรายจ่ายงบลงทุนเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นการใช้เม็ดเงินเพื่อการลงทุนที่จะสร้างผลลัพธ์ในระยะยาว เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวพ้นวิกฤตการณ์ทางการเงินการคลังในอนาคตได้ และพร้อมที่จะพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนต่อไป
03 ธ.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” นั่งหัวโต๊ะขานรับนโยบาย “ธนกร” ประกาศ “พักหนี้-ดีพร้อม” ยกต้น : ยกดอก อัตโนมัติ 4 เดือน ช่วยลูกหนี้ SME น้ำท่วมภาคใต้ เร่งเพิ่มสภาพคล่องผ่านสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
“อธิบดีณัฏฐิญา” นั่งหัวโต๊ะขานรับนโยบาย “ธนกร” ประกาศ “พักหนี้-ดีพร้อม” ยกต้น : ยกดอก อัตโนมัติ 4 เดือน ช่วยลูกหนี้ SME น้ำท่วมภาคใต้ เร่งเพิ่มสภาพคล่องผ่านสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
กรุงเทพฯ 28 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่ 7/2568 ร่วมด้วย นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ มีการพิจารณาออกมาตรการเร่งด่วนในการบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภายใต้สินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย หรือดีพร้อมเปย์ (DIPROM Pay) กรอบวงเงินสินเชื่อล็อตแรก 50 ล้านบาท โดยลูกหนี้ชั้นดีรายเดิมจะได้รับการพักชำระหนี้อัตโนมัติทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่เกิน 4 เดือน พร้อมลดภาระค่างวดผ่อนชำระรายเดือนและขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้ไม่เกิน 2 ปี สำหรับลูกค้ารายใหม่สามารถยื่นขอสินเชื่อดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย หรือเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ให้มีโอกาสฟื้นตัวในการประกอบอาชีพ โดยสามารถกู้วงเงินได้รายละไม่เกิน 5 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก พร้อมพักชำระหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน โดยฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินการ สิทธิที่ลูกหนี้จะได้รับ หลักเกณฑ์เงื่อนไข และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการดังกล่าวให้คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ ร่วมกันพิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติให้ปล่อยสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” วงเงินล็อตแรก 50 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ มาตรการด้านการเงินดังกล่าว เป็นหนึ่งในนโยบายของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเร่งช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย เพื่อเร่งฟื้นธุรกิจในพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
01 ธ.ค. 2568
“รองพลาวุธ” ร่วมประชุม คกก. ส่งเสริม SME เร่งขับเคลื่อนแผนช่วย ผปก. SME ไทย เสริมสภาพคล่อง เพิ่มโอกาสเติบโตยั่งยืน
“รองพลาวุธ” ร่วมประชุม คกก. ส่งเสริม SME เร่งขับเคลื่อนแผนช่วย ผปก. SME ไทย เสริมสภาพคล่อง เพิ่มโอกาสเติบโตยั่งยืน
กรุงเทพฯ 27 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 4/2568 โดยในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้ นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมฯ ร่วมด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล การประชุมครั้งนี้ ฝ่ายเลขาฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของ สสว. รวมถึงความคืบหน้าในการเบิกจ่ายกองทุนส่งเสริม SME ประจำปี 2567–2568 เพื่อให้คณะกรรมการรับทราบตามลำดับ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนมาตรการสำคัญของรัฐบาล อาทิ การปรับแผนจัดสรรเงินกองทุนเพื่อสนับสนุน SME ภายใต้โครงการต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย โดยจากภาพรวมสถานการณ์ SME ไทย ที่ประชุมได้รายงานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของผู้ประกอบการ SME พบว่า ผู้ประกอบการหลายกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากจีน SME ขนาดเล็กประสบปัญหาสภาพคล่อง แม้ยังคงดำเนินกิจการได้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น “คนละครึ่งพลัส” และ “เที่ยวดีมีคืน” ที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าร่วมอย่างคึกคัก และคณะกรรมการ ในที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าการช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเพิ่มโอกาสเข้าถึงตลาดใหม่เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเดินหน้าแผนงาน Soft Power และโครงการใหม่เพื่อ SME ที่ประชุมเห็นชอบการปรับรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณกองทุนฯ วงเงินรวม 700 ล้านบาท ภายใต้แผนส่งเสริมระบบนิเวศด้าน Soft Power คณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนวทางเพิ่มเติมว่าทุกโครงการต้องให้ “ความคุ้มค่าและเกิดผลจริงต่อ SME” และควรเร่งดำเนินการโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้เป็นลำดับแรก
01 ธ.ค. 2568
“ดีพร้อม” ดันเศรษฐกิจฐานราก เสิร์ฟโครงการปั้นอาชีพให้ดีพร้อม ชู 4 หลักสูตรเด็ด ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวฉะเชิงเทรา
“ดีพร้อม” ดันเศรษฐกิจฐานราก เสิร์ฟโครงการปั้นอาชีพให้ดีพร้อม ชู 4 หลักสูตรเด็ด ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวฉะเชิงเทรา
จังหวัดฉะเชิงเทรา 26 พฤศจิกายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อผลักดัน ปั้นอาชีพให้ดีพร้อม ภายใต้โครงการ “ดีพร้อมผลักดัน ปั้นอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก” โดยมี นายลือชัย เย็นใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางเกลือ กล่าวต้อนรับ ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดบางเกลือ ตำบลบางเกลือ อำเกอบางปะกง โดยรูปแบบกิจกรรมเป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับการพัฒนาฝีมือด้านการประกอบอาชีพอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน พร้อมสอดแทรกด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ใน 4 หลักสูตร แบ่งเป็น อาหารคาว ของหวานและของทานเล่น 3 หลักสูตร ได้แก่ 1. น้ำพริกปลาสลิด สูตรพริกขิง 2. หมี่คลุกกอบโกย สูตรทำง่าย...ขายหมดเกลี้ยง 3. ขนมเปียกปูนใบเตยกะทิสด สูตรทำขาย และของใช้ในครัวเรือน 1 หลักสูตร คือ น้ำมันนวดสมุนไพรสุขเกษม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ “ดีพร้อม” ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ด้วยหลักสูตรฝึกอาชีพระยะสั้น ซึ่งสอดรับกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีมาตรการในการช่วยเหลือหรือกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ได้ผลระยะยาว รวมถึงนโยบาย 4 มิติ ของกระทรวงอุตสาหกรรมในมิติที่ 4: “การกระจายรายได้” มุ่งเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ “ดีพร้อม” คาดหวังว่าผู้เข้าร่วมฝึกอบรมจะนำทักษะที่ได้รับต่อยอดไปสู่การเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือนำไปปรับใช้กับธุรกิจเดิม หรืออาจทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชนจากการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและการจ้างงานภายในชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
01 ธ.ค. 2568
เปิดฉากรอบปฐมทัศน์ My Century “ดีพร้อม” สร้างภาพยนตร์ สร้างคนทำอาหาร “ธนกร” การันตีความสนุก การันตีความอร่อย มอบ “พลอยลภัสร์” เปิด “สำรับ สลับศตวรรษ” : ดีพร้อม-หวังปลุกกระแส Thainess ไม่ใช่แค่หนัง! หากแต่เป็น “อาหาร” ที่ทำให้คนทั่วโลกคลั่งไคล้ประเทศไทย
เปิดฉากรอบปฐมทัศน์ My Century “ดีพร้อม” สร้างภาพยนตร์ สร้างคนทำอาหาร “ธนกร” การันตีความสนุก การันตีความอร่อย มอบ “พลอยลภัสร์” เปิด “สำรับ สลับศตวรรษ” : ดีพร้อม-หวังปลุกกระแส Thainess ไม่ใช่แค่หนัง! หากแต่เป็น “อาหาร” ที่ทำให้คนทั่วโลกคลั่งไคล้ประเทศไทย
กรุงเทพฯ 26 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดตัวภาพยนตร์ เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” ร่วมด้วย นายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวจิรัฐติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯรัฐมนตรี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นายรฤกฤกษ์ กัลย์จาฤก ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ นายศรัณย์ ศิริลักษณ์ นักแสดงนำชาย นางสาวเฌออัณณ์ ฤชวีชุติชัยยุทธ์ นักแสดงนำหญิง และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ โรงภาพยนตร์ที่ 14 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ปทุมวัน นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารให้เติบโตและต่อยอดผ่านการพัฒนาทักษะ ยกระดับมาตรฐานอาหารไทยควบคู่ไปกับการใช้วัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ พร้อมถ่ายทอดผ่านเรื่องราวการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเผยแพร่เอกลักษณ์ของอาหารและความเป็นไทยไปสู่ระดับสากล โดยใช้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เข้ามาเป็นกลไกขับเคลื่อนและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การเล่าเรื่องอาหารไทยผ่านภาพยนตร์ จะสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ เพราะทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกอยากลอง อยากค้นหา หรืออยากตามรอย และนำไปสู่การใช้จ่ายจริง โดยธุรกิจอย่างร้านอาหาร วัตถุดิบไทย สินค้าอาหาร และคอนเทนต์ต่อยอดต่าง ๆ สามารถใช้กระแสจากภาพยนตร์ไปขยายตลาดได้ทันที นอกจากนี้ ยังทำให้อาหารไทยมีพื้นที่ในตลาดใหม่ ๆ ทั้งด้านภาพลักษณ์ของประเทศและโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะยาว ด้านนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย ผ่าน 3 กลไกสำคัญ คือ (1) สร้างสรรค์และต่อยอดด้วยความคิดและนวัตกรรม (2) โน้มน้าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับ และ (3) เผยแพร่เรื่องราวต่าง ๆในวงกว้าง โดยได้มีการพัฒนาเชฟผ่านเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหาร เพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ นอกจากนี้ ยังพัฒนาร้านอาหารผ่านเมนูแต่ละจานที่ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ไทยในทุกมิติ สำหรับภาพยนตร์ “สำรับ สลับศตวรรษ My Century” สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่อยากจะนำเสนอ "สำรับไทย" ที่ไม่ใช่เพียงแค่อาหาร แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ และสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ผ่านเมนูอาหารที่บ่งบอกอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thainess) และเป็นพลังที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักและอยากสัมผัส โดยใช้การบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองที่สนุกสนาน น่าตื่นเต้น และเชื่อมโยงรากเหง้าทางวัฒนธรรมเข้ากับยุคสมัยผ่านมิติของเรื่องเล่า ความทรงจำ และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังของเมนูอาหาร ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การส่งต่อให้แก่คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และภาคภูมิใจในความเป็นไทย (Thainess) ให้เติบโตไปสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2568 และผ่านช่องทางดิจิทัล หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ YouTube Facebook TikTok รวมถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Viu ที่ครอบคลุม 16 ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่าสามารถสร้างให้เกิดการรับรู้ไม่น้อยกว่า 300,000 ครั้ง และเกิดการมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า 500 ครั้ง อันจะเป็นการเผยแพร่ความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยในระดับประเทศ
28 พ.ย. 2568